โรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้ำตาลสะสมในเลือดปริมาณมาก
อาการของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติ บางรายอาจตรวจพบโรคเบาหวานเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนแล้ว อาการที่พบส่วนใหญ่ คือ กระหายน้ำมาก ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย น้ำหนักลดหรือเพิ่มผิดปกติ สายตาพร่ามัว เห็นภาพไม่ชัด รู้สึกเหนื่อยง่าย มีอาการชา โดยเฉพาะมือและขา บาดแผลหายยาก
ชนิดของโรคเบาหวาน
- เบาหวานชนิดที่ 1 – เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้เกิดภาวะขาดอินซูลิน
- เบาหวานชนิดที่ 2 – เกิดจากภาวะการลดลงของการสร้างอินซูลิน ร่วมกับภาวะดื้ออินซูลิน และมักเป็นกรรมพันธุ์
- เบาหวานขณะตั้งครรภ์ – เบาหวานชนิดนี้เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์และหายไปได้หลังคลอดบุตร แต่มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
กลุ่มเสี่ยง
- อ้วน
- อายุมากกว่า 40 ปี
- มีภาวะความดันโลหิตสูง
- เมื่อทดสอบความทนต่อน้ำตาล (กลูโคส) ด้วยการดื่มกลูโคส 75 กรัมแล้วพบว่าระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังดื่มกลูโคสอยู่ในช่วง 140-199 มก./ดล.
- มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงและระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
- มีระดับน้ำตาลขณะอดอาหาร 8 ชั่วโมงอยู่ระหว่าง 100-125 มก./ดล.
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
วิธีรักษา
- การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการออกกำลังกาย และการลดน้ำหนักหากน้ำหนักเกินกว่าปกติ
- การใช้ยา แพทย์จะสั่งใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีทั้งในรูปแบบรับประทานและยาฉีดเข้าผิวหนัง
วิธีป้องกัน โรคเบาหวาน
- การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ลดอาหารที่มีรสหวานจากน้ำตาล เลือกอาหารที่มีไขมันและแคลอรีต่ำ มีใยอาหารสูง เน้นผลไม้ ผัก และธัญพืชไม่ขัดสี
- การป้องกันไม่ให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้
- ตั้งเป้าออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับปานกลางถึงหนัก 150 นาทีขึ้นไปต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือว่ายน้ำ
- ลดน้ำหนัก การลดน้ำหนักทำให้การดำเนินโรคจากภาวะก่อนเป็นเบาหวานเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ช้าลง การลดน้ำหนัก 7% ถึง 10% ของน้ำหนักตัวสามารถลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานได้
- หลีกเลี่ยงการนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานาน พยายามลุกขึ้นเดินทุก ๆ 30 นาทีและเคลื่อนไหวอย่างน้อยสองสามนาที เป็นต้น
- ควรหลีกเลี่ยงความหวานจากสารทดแทนความหวาน เพราะถึงแม้จะควบคุมน้ำตาลได้จริง แต่จะทำให้ติดหวาน และอยากกินของหวานเท่าเดิม หรือมากขึ้น
แหล่งข้อมูล: